6 ศิลปินไทยในวงการเพลง ที่น่าจับตาในปี 2023

 

ถ้าจะพูดถึงวงการเพลงไทยในเวลานี้ก็ต้องยกให้ “T-Pop” แล้วแหละ หลังจากที่เงียบๆ มาอยู่หลายปี ก็ได้กลับมาบูมอีกครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง จากกระแสต่างๆจาก TikTok ที่ช่วยให้คนกลับมาฟังเพลงแนวนี้ และพลักดันเพลงไทยสไตล์ T-pop ให้เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์อีกครั้ง

 

เพื่อยกระดับวงการเพลงไทยให้ไปได้ไกลเหมือนที่ K-Pop และ J-Pop ได้ทำไว้ในช่วงปี 2000 ซึ่งในขณะนั้นคนไทยนิยมฟังเพลงสไตล์ร็อค โดยเฉพาะจาก 2 ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง GMM Grammy และ RS Entertainment ก่อนที่วัฒนธรรมจากฝั่งเอเชียตะวันออกจะเริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์การฟังเพลงของวัยรุ่นไทย จึงเกิดเป็นค่าย Kamikaze ค่ายลูกของค่าย RS ได้เริ่มเข้ามาตีตลาดแนวเพลง T-Pop ในประเทศไทย จนฮิตติดใจวัยรุ่นทั่วบ้านทั่วเมือง


Kamikaze เปิดตัวด้วยความสำเร็จที่เกินคาด จากกระแสเพลงของศิลปินที่มีทำนองฟังง่าย เรียกได้ว่า ไปที่ไหนก็ต้องร้องเพลงจากค่าย Kamikaze กันได้หมด ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแต่เพลงของพวกเขา กลับถูกเอามาเปิดฟังกันจนถึงทุกวันนี้ และลามไปถึงการเอาไปเต้นจนเป็นไวรัลใน TikTok โดยเฉพาะกลุ่มไอคอนิกจากทางค่าย เช่น โฟร์-มด, K-OTIC, เฟย์ ฟาง แก้ว, 3.2.1 และศิลปินเดี่ยวอย่าง หวาย, ขนมจีน, ธามไท และศิลปินอื่นๆ อีกมากมาย 

 

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน วงการเพลงไทยได้เติบโตไปมากกว่าเดิม เราเห็นศิลปินคนไทยอยู่ในเวทีระดับโลกมากขึ้น เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และที่อดพูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Lisa จากวง Blackpink ที่ช่วยตอกย้ำความสามารถของคนไทย จากการเต้นหรือความสามารถที่ผลักดันให้เธอได้เป็น Global Ambassador ให้กับแบรนด์แฟชั่นสุดหรู “Celine” จากประเทศฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี รวมถึงแบรนด์เครื่องประดับสุดหรูอย่าง BVLGARI 

 

หรือแม้แต่แร็ปเปอร์สาวอย่าง มิลลิ (MILLI) ได้ขึ้นโชว์ในเทศกาลดนตรี Head in the Clouds Festival ที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย จัดขึ้นโดยค่าย 88rising ซึ่งเป็นค่ายรวมศิลปินเอเชียระดับโลก รวมถึงงานเทศกาลดนตรีโคเชลลา (Coachella) ก็เรียกว่าเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวไทยคนแรกที่ได้เข้าร่วมเวทีนี้


อีกหนึ่งสาวไทยที่โด่งดังไปไกลถึงประเทศจีน เนเน่ พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ หรือที่ชาวจีนรู้จักเขาในชื่อ Nene Zheng Nai Xin (郑乃馨) เธอได้เข้าแข่งขันรายการวาไรตี้ประกวดร้องเพลง Produce Camp 2020 (CHUANG 2020) จนได้รับคัดเลือกเดบิวต์เป็นสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปจีน และกลายเป็นศิลปินเดี่ยวในปัจจุบัน

หากมองเข้าไปในตลาดเพลงไทย บอกได้เลยว่าคนไทยเป็นคนมีความสามารถ สามารถทำแนวเพลงออกมาได้หลากหลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ผสมผสานเพลงหลายๆ แนวเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมทั้งยังคงความเป็นไทยอยู่ เรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของวงการเพลงไทยอีกครั้งเลยก็ว่าได้ 

ด้วยกระแสที่เปลี่ยนไป รวมถึงตัวคนฟัง แนวเพลงก็ได้เปลี่ยนไปมากขึ้น มีการใส่ลูกเล่นต่างๆ เข้าไป โชว์จุดเด่นของศิลปินให้เป็นที่จดจำ ยังไม่รวมเรื่องภาพลักษณ์ที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบัน วงการเพลงไทยได้ให้กำเนิดศิลปินมากความสามารถออกมา แบบที่เรียกได้ว่า ไม่หวาดไม่ไหว จะมีใครน่าสนใจในช่วงต้นปีที่ผ่านมากันบ้าง ลองมาดูกันเลย!

Tilly Birds

วงอัลเทอร์เนทีฟร็อครุ่นใหม่ ที่เป็นที่น่าจับตาจากค่าย Gene Lab

 
หากพูดถึงวงดนตรีรุ่นใหม่ถูกใจวัยรุ่น คำตอบของหลายๆ คนก็ต้องเป็น Tilly Birds อย่างแน่นอน โดยจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวเพื่อน 2 คน เติร์ด (นักร้องนำ) และ บิลลี่ (มือกีตาร์) ในช่วงสมัยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พวกเขาได้ทำวงดนตรี ซึ่งชื่อวง Tilly Birds ไม่ได้เกี่ยวกับนกแต่อย่างใด เป็นการนำชื่อของเพื่อนรักทั้ง 2 คน มาผสมรวมกัน และได้กลับคำตากหน้าไปหลัง ซึ่งต่อมาก็ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นคือ เบ๊บ ในตำแหน่งกีตาร์ รวมถึงไมโล เข้ามาทำหน้าที่มือกลอง 

หลังจากฟอร์มวงได้ไม่นาน ก็ได้เริ่มทำเพลงกัน โดยก่อนหน้านั้น ทางวงทำเพลงออกมาแต่ภาษาอังกฤษแนว Alternative Rock หลังจากนั้นจึงเริ่มทำเพลงไทยมากขึ้น จนเกิดเป็นอัลบั้ม EP ออกมาในชื่อ “Tilly Birds EP”

 

หนึ่งก้าวสำคัญที่ทำให้วงเติบโตมากขึ้นคือ การเข้าร่วมแข่งกันในรายการ “Band Lab” ซึ่งเป็นรายการค้นหาศิลปินหน้าใหม่ในค่าย Gene Lab ซึ่งรายการได้ให้โจทย์แต่งเพลง ในแต่ละวงเป็นเวลา 3 วัน ทำให้ เบ๊บ 1 ในสมาชิกตอนนั้นออกจากวง เนื่องจากปัญหาเรื่องเวลา ภายในระยะเวลา 3 วันนั้น Tilly Birds ได้แต่งเพลงแรกออกมา นั้นก็คือเพลง จากกันด้วยดี (Ordinary) และทำให้วงได้รับชัยชนะในรายการ และกลายเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว ก่อนที่จะปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ เริ่มจากเพลง อภัย (Broken) และเริ่มฮิตเป็นพลุแตก หลังจากการเปิดตัวด้วยเพลง แค่พี่น้อง (Status) รวมถึง คิด(แต่ไม่)ถึง (Same Page?) ที่ทำให้วงประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว


และปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่ต่อยอดความสำเร็จของวงได้อย่างยอดเยี่ยม จากการเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในปีที่แล้ว ในชื่อ “It’s gonne be OK” ได้เกิดคอนเสิร์ตใหญ่ ครั้งแรกของวง ในชื่อ “It’s gonne be Tilly Birds” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ที่ SHOW DC HALL และทางวงเองก็เชื่อว่าในอนาคตเร็วๆ นี้ Tilly Birds จะไม่หยุดพัฒนา และก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งวงที่มีเสียงเพลงให้จารึกในวงการเพลงไทยแน่นอน

 

แนะนำสมาชิก


 

Thrid นักร้องนำ 
●    ชื่อจริง : อนุโรจน์ เกตุเลขา
●    ชื่อเล่น : เติร์ด
●    เกิดวันที่ : 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
●    ตำแหน่งในวง : ร้องนำ
●    Instagram : 2nd__4th

 

 
Billy มือกีตาร์ 
●    ชื่อจริง : ณัฐดนัย ชูชาติ
●    ชื่อเล่น : บิลลี่
●    เกิดวันที่ : 19 มกราคม พ.ศ. 2538
●    ตำแหน่งในวง : กีตาร์และคีย์บอร์ด
●    Instagram : billbilly01

 



Milo มือกลอง 
●    ชื่อจริง : ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล
●    ชื่อเล่น : ไมโล
●    เกิดวันที่ : 24 มกราคม พ.ศ. 2538
●    ตำแหน่งในวง : กลอง
●    Instagram : milotanti

 

เพลงที่แนะนำ

 

เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) Feat. MILLI 
คิด(แต่ไม่)ถึง (Same Page?)
ถ้าเราเจอกันอีก (Until Then)
แค่เธอเข้ามา (Worth The wait)
เดอะแบก (Baggage)
ลู่วิ่ง (Can’t Keep Up)
ฤดูหนาว (Bangkok Winter)

Jeff Satur จากนักแสดงซีรี่ส์วายสู่ศิลปินมากความสามารถระดับนานาชาติ 

 


มาต่อกันที่คนที่สอง หนุ่มหล่อเสียงนุ่มชวนฝัน ที่มีฝีมือด้านการแสดงอีกด้วย ในบทบาท คุณคิม ลูกชายคนเล็กในตระกูลหลัก จากซีรีส์เรื่อง ‘คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์’ ซีรีส์วายที่เป็นกระแสมากๆ ก่อนหน้านี้
 
เจฟ ซาเตอร์ มีชื่อจริงว่า วรกมล ซาเตอร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2538 ปัจจุบันอายุ 27 ปี โดยเจฟ เป็นลูกครึ่งเสี้ยว ไทย-จีน-อังกฤษ โดยแรกเริ่มเข้าวงการในสังกัด Kamikaze เครือ RS Entertainment โดยมีเพลงออกมาในช่วงนั้น เช่น คิดถึงเธอแทบจะตายแล้ว, ไม่กล้าบอกชัด
 

ในปี 2561 เจฟ เปิดตัวเป็นศิลปินภายใต้สังกัด GRAND MUSIK เครือ GMM Grammy หลังจากหมดสัญญา เจฟก็ได้มาเป็นศิลปินอิสระ เจฟก็ได้เขียนเนื้อเพลง ทำทำนอง และโปรดิวซ์เพลงเองทั้งหมด เจฟเริ่มได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากขึ้น กับการหันมาเล่นซีรีส์วายแนวมาเฟีย เรื่อง KinnPorsche The Series กับบท คิมหันต์ น้องเล็กแห่งตระกูลมาเฟีย ซึ่งคาแรคเตอร์คิมหันต์จะมีความขรึมๆ ดูมีความลับ ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนจากการแสดงเรื่องนี้ของเจฟ ซาเตอร์ ทำให้เขามีแฟนคลับเยอะขึ้น จากหลายประเทศทั่วโลก เข้ามาติดตามอินสตาแกรมของเขาอย่างมากมาย ทั้งตัวของเจฟเองและผลงานเพลงก็มีคนรู้จักเยอะขึ้น จนเจ้าตัวได้มีโอกาสร้องเพลงประกอบซีรีส์ คินน์พอร์ช ที่มีชื่อเพลงว่า แค่เธอ (Why don't you stay) เป็นเพลงที่เจฟร้องออกมาได้ไพเราะและอบอุ่นมาก หลังจากเพลงนี้ถูกปล่อยเอ็มวีออกมา ยอดผู้เข้าชมก็ทะลุ 1 ล้านวิว ภายในเวลา 24 ชั่วโมง

 

ปัจจุบัน เจฟ เป็นศิลปินในสังกัดของ Wayfer Record ในเครือของ Warner Music Thailand และยังไม่หยุดสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้เหล่าแฟนๆ ได้ฟังกัน รวมถึงการโกอินเตอร์ในรายการ Call Me By Fire Season 3 ที่ประเทศจีน ที่มีแขกรับเชิญจำนวน 32 คน ซึ่งแต่ละคนจะหลากหลายเรื่องความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักแสดง นักเต้น ทั้งในและนอกประเทศจีน เข้ามาฝึกฝนในรายการ เพื่อค้นหาทีมที่จะได้คะแนนมากที่สุดในรายการ จากการโหวตของผู้ชมทางบ้านในแต่ละวีค โดยรายการได้เริ่มออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 หากใครสนใจ อยากติดตามความสามารถของหนุ่มคนนี้ ก็ติดตามรับชมได้เลย

 

ผลงานเพลง
●    วันนี้คือพรุ่งนี้ของเมื่อวาน (Loop)
●    แค่เธอ (Why Don’t You Stay)
●    ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade)
●    Dum Dum
●    ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid)

PiXXiE จากเกินต้านสู่กระแสที่ต้านไม่อยู่ 

 
เริ่มเข้าสู่ที่วงการ T-Pop กันบ้าง ที่ต้องบอกว่า กระแสกำลังปังมาก จากค่ายเพลงน้องใหม่ LIT Entertainment ที่ปลูกปั้นโดย โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม หรือ โดม เดอะ สตาร์ แชมป์จากรายการประกวดเดอะสตาร์ ซีซั่น 8 และมุก นิตา ชวลิต ภรรยาคนเก่ง ของ พัด วง MEAN เพื่อสร้างศิลปิน T-Pop รุ่นใหม่ ที่จะมาขับเคลื่อนวงการให้ไปได้ไกลกว่าเดิม
 
พิกซี่ หรือ PiXXiE เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรกจากค่าย LIT Entertainment โดยมีสมาชิก ได้แก่ มาเบล, พิมมา, อิงโกะ ได้เปิดตัวออกมาในเพลงแรกในชื่อ เด็ด (Ded) ในคอนเซปต์เกี่ยวกับสาวยุคใหม่ มีความมั่นใจในตัวเอง และได้ทำกระแสออกมาสมชื่อเพลงเลยทีเดียว

โดยสมาชิก 3 คนก็มีเอกลักษณ์ คาแรคเตอร์ ความเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน มัดใจทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วประเทศได้อยู่หมัด

แนะนำสมาชิก

 
มาเบล (Mabelz)

สุชาดา สอนพันธ์ หรือ มาเบล สาวที่มีสเน่ห์ล้นเหลือ พลังงานความสดใส ขี้เล่นแต่แฝงด้วยความเซ็กซี่ และความสวยแบบสะกดทุกสายตา ที่ทำได้ดีทั้งร้อง และเต้น และเร็วๆ นี้ มาเบลจะได้รับบทบาทนักแสดงให้เราได้ติดตามกัน

 

 
พิมมา (Pimma)

พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ หรือ พิมมา สาวเท่ มีสไตล์เป็นของตัวเอง ถ้าหากพูดถึงแฟชั่นนิสต้าของวงการ T-Pop ก็ต้องมีชื่อพิมมาอย่างแน่นอน พิมมาทำได้ดีทั้งการแร็ป และที่โดดเด่นคือการเต้น เชื่อว่าหากใครได้เห็นก็จะหลงสเน่ห์สาวมาดเท่คนนี้แน่นอน

 

 
อิงโกะ (Ingkho)

อินท์ปาลี โชติหิรัญธนนนท์ หรือ อิงโกะ สาวหน้าใสที่รักการร้องเพลง พร้อมรอยยิ้มสดใส เพิ่มพลังบวกให้กับทุกคน อิงโกะมีสไตล์การร้องเพลงที่โดดเด่น เสียงเป็นเอกลักษณ์ ทรงพลัง

 

 

และตอนนี้ กระแสความปังของ PiXXiE ก็เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรฉุดอยู่แล้ว จากการปล่อยเพลงในแต่ละครั้ง ที่เรียกได้ว่ากระแสดีตลอด จนมาเริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนฟังเพลงทั่วไปในเพลง มูเตลู (Mutelu) ที่มีท่อนฮุคติดหู ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ไปที่ไหนเป็นต้องได้ยิน และที่เรียกได้ว่า เป็นการผลักดัน PiXXiE ให้เข้าสู่กระแส Mainstream คือเพลง เกินต้าน (Too cute) น่ารักสดใส ต้อนรับซัมเมอร์ชุ่มช่ำหัวใจกันไปเลย
 

และจากกระแสที่ดีเกินคาด ทำให้เหล่าแฟนๆ คาดหวังในการปล่อยอัลบั้มแรก ของเกิร์ลกรุ๊ปสาว และแฟนๆ ก็ไม่ผิดหวัง ในอัลบั้ม “BLOOM” ที่มาพร้อมเพลงใหม่มาเซอร์ไพร์สแฟนๆ รวมถึงการจัดงานแฟนไซน์ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566
 
และในปีนี้ก็ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ PiXXiE และ LIT Entertainment ที่ได้จัดงานคอนเสิร์ตค่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ในชื่อ สนามเด็ก LIT Concert ที่ Union Hall @ Union Mall ในอนาคตอันใกล้ ก็เชื่อว่า PiXXiE จะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเอง เพื่อตอบรับการสนับสนุนจากแฟนๆ
 
และตอนนี้กระแสของ PiXXiE ก็กำลังโด่งดังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลงใหม่ Dejayou หรือการที่แฟนคลับเอาเพลงของพวกเธอไปเต้นบน TikTok ให้เป็นไวรัล และกำลังบูมมากๆ ในประเทศจีนจากแอพโซเชียลดังกล่าว

ผลงานเพลง

●    เด็ด (DED)
●    มูเตลู (MUTELU)
●    เกินต้าน (Too Cute)
●    ไม่ได้ก็ไม่เอาแล้ว (Whatever)
●    งอนละ (Boo)
●    Dejayou


4EVE 

7 สาว 7 สไตล์จากเวที Survival สู่ Girl Group แนวหน้าของเมืองไทย

หนึ่งในนักร้องวงหญิงล้วนแถวหน้าของประเทศไทยทุกมาจุดกระแสวงการเพลง TPOP ต้องนี่เลย 4EVE ศิลปิน Girl Group สังกัดค่าย XOXO ENTERAINMENT ในเครือ WorkPoint Entertainment

 

มีสมาชิกทั้งหมด 7 คนคือ Mind, Jorin, TaAom, Hanna, Fai, Punch และ Aaaye 7 สาว 7 สไตล์ ซึ่งนิยามความเป็นตัวเองของผู้หญิง ปลุกความมั่นใจทั้งภายนอกและภายในจิตใจของวัยรุ่นยุคนี้ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว 

 

พวกเขาได้เข้าประกวดและชนะการแข่งขันรายการ 4EVE Girl Group Star ซึ่งเป็นรายการค้นหาศิลปินหญิง และได้เปิดตัวความจี๊ดจาดด้วยด้วยเพลง  “Oohlaa!” พร้อมหน้าพร้อมตา 7 คน  เมื่อปี 2563 และเปิดตัวอัลบัมแรก “The First Album” ด้วยเพลง “วัดปะหล่ะ? (TEST ME) ” ซึ่งเป็นเพลงฮิตติดหูวัยรุ่นเมืองไทย เปิดที่ไหนใครก็ต้องร้องได้ และยังขึ้นติดอันดับ1 ของฮิตของ Spotify Thailand Charts อีกด้วย 


เพลง “วัดปะหล่ะ” หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ “TEST ME” เรียกได้ว่าเป็นเพลงแจ้งเกิดของวง 4EVE เลยก็ว่าได้ ด้วยเนื้อร้องและ Music Video ที่ในแนว Summer Video ด้วยความสดใสน่ารักและเสียงร้องของ Jorin, Hanna และ Aheye จึงทำให้เพลงนี้ขึ้นแท่นเพลงฮิต 100 ล้านวิว และติดเทรนด์ Twitter #วัดปะหล่ะ4EVE100m and Tiktok ในเวลานั้น 


เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางต้นสังกัดก็ได้ทยอยปล่อยเพลงใหม่ๆ ในอัลบัมชุดที่ 2 ด้วยเพลง Pop ฟังสบาย เปิดตัวอัลบัมนี้ด้วยเพลง “ข้อยกเว้น (Exceptional)” ออกมาให้วันรุ่นไทยได้ฟัง ภายใต้ Concept สุดร้อนแรง 7 Deadly Sins หรือบาป 7 ประการ ต้องการสื่อให้เห็นถึงอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ที่ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม ทุกคนล้วนมีด้านมืดในใจ บางคนตัดสินคนอื่นโดยไม่ได้มองอีกมุมหนึ่งของสิ่งนั้นก่อน ซึ่งการร้องและการเต้นก็จะแตกต่างไปจากแนวเพลงที่ผ่านมา มากไปกว่านั้นเพลงนี้ได้ชนะรางวัลเพลง HITZ ติดหูในประจำปี 2022 อีกด้วย 


 
ต่อกันมาติดๆ ด้วยเพลง “Boutchya” ซึ่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษล้วน และได้ทยอยออกเพลงใหม่ๆ มาให้ทุกคนได้ฟังกันอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ว่าแต่เพลงฮิตติดหูของ 4EVE มีอะไรบ้าง? (ชื่อ Magazine) พร้อมแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน! 


 

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ปี 2022 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สาว 4EVE ทั้ง 7 คนก็ได้มีคอนเสิร์ตครั้งแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งพวกเขามาใน Concept ที่มีชื่อว่า ‘The 1st Concert Friends & Family’ และยังได้รับรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน T-POP แห่งปี 2022, Best Creator Performance on Social Media สาขาศิลปินกลุ่ม, ศิลปินกลุ่มไอดอลหญิงยอดนิยม, BEST GROUP OF THE YEAR, ศิลปินเพลงสตริงแห่งปี และนักร้องยอดนิยมมหาชนแห่งปี 2023 



วันนี้ (ชื่อ Magazine) พาเพื่อนๆ มาเปิดประวัติ 7 เมมเบอร์สาว 4EVE สไตล์จี๊ด มาทำความรู้จากพวกเธอให้มากขึ้นกันเถอะ 


สมาชิกวง 4EVE 7 คน 7 characters


Mind-Atitaya Tribudarak

คนแรกสาวหน้าสวย ทั้งร้องทั้งเต้น ครบเครื่อง ล่าสุดเธอได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกป้ายเเดงในละครเรื่อง “นางนาค สะใภ้พระโขนง (Nak, daughter-in-law of Phra Khanong)” ทางช่อง WorkPoint 23 ละครไทยแนวชีวิต-ตลกบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของคู่รักคู่หนึ่งในสมัยก่อน 


Jorin Khumpiraphan

Main Rapper ของวง ทั้งเต้นเก่ง ร้องเก่ง เธอมาพร้อมกับความเท่ มีเอกลักษณ์ โก๊ะ เฮอา และร่าเริงสดใส เป็นที่ชื่นชอบทั้งหญิงและชาย ด้วยเสน่ห์ของโจริญ


Aheye-Korranid Loasubinprasoet


สาวน้อยเมนโวคอลเสียงหวานทรงพลังระดับ Musical เธออายุน้อยที่สุดในวง ผ่านผลงานมากมายในวงการบันเทิง ทั้งละครเวที เพลง และผลงานบนจอโทรทัศน์ ที่ต้องบอกความสามารถกินเกินหน้าตาไปแล้ว


Taaom-Benyapa Unjit

สาวหน้าเก๋ สายแฟ เธอมักจะมาพร้อมกับสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น ละมักติดอยู่ในลิสต์แฟชั่นนิสต้าของศิลปินไทยรุ่นใหม่เสมอ นอกจากนี้ เสียงร้องของตาออมยังมีเสน่ห์


Hannah Rosenbloom


Hannah สาวสายฮา เสียงเป็นเอกษณ์เฉพาะตัว ร้อง เต้น และแสดง ครบในคนเดียว เคยเป็นทีนไอดอลระดับท็อปส่งตรงจาก สปป.ลาว ดีกรีรองชนะเลิศมิสทีนลาว 


Punch-Tipanan Nilsiam


สาวหมวยสายเต้นและแร็ปได้ นอกจากจะเป็นศิลปินวง 4EVE แล้วเธอโด่งดังในโลกของ TikTok เธอได้เป็นตัวแทน Tik Tok ของประเทศไทยไปแข่งที่ประเทศไต้หวันและได้รับรางวัลขวัญใจกลับมาอีกด้วย 


 Fai – Nattaya Buttura


สาวเท่ขาแดนซ์ เธอมาพร้อมกับทักษะการเต้นที่หลายหลากทั้ง Hip-hop และ Street dancing ฉายาที่เพื่อนๆ และแฟนคลับมอบให้เธอคือ “กล้วย” เพราะ Fai เคยใส่หมวกกล้วยมาตอนซ้อม

 

ผลงานเพลง

 

●    LIKE A BLING
●    วัดปะหล่ะ? (TEST ME) 
●    Oohlala! 
●    Booty Bomb 
●    Trick Or Treat
●    ภาพหลอน (REELS) 
●    Boutchya
●    สิ่งเล็กน้อย (LESS IS MORE) 
●    หยดน้ำตา ( TEARS )
●    Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย) 


Billkin จากศิลปินสู่ผู้บริหารค่ายเพลง 
 
Billkin (บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) นักแสดง นักร้อง นายแบบชาวไทยเชื้อสายจีน บิ้วกิน และ พีพี ถูกพูดถึงและเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงซีรี่ส์เรื่อง “My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ด้วยบทบาทและเคมีของตัวละครทำให้ทั้งสองโดนเด่นในฐานะ “คู่จิ้น” และได้เป็นศิลปินของค่าย นาว บางกอก ภายใต้โปรเจกต์คู่ อย่าง “BKPP Project” ในปี 2020 


 

ผลงานแจ้งเกิดแบบชัดเจนที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างระดับทั่วเอเชียก็คือ โปเจกต์ซีรี่ส์วาย “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ทั้ง 2 ซีซั่น ด้วยทักษะทางการเเสดงของทั้งบิ้วกิ้นและพีพี พร้อมทั้งเคมีชวนจิกหมอน ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นกระเเสไวรัลไปทั่วทั้งในประเทศไทยและประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเรียกได้ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ยกระดับมาตรฐานซีรี่ส์วายของประเทศไทยไปอีกขั้นหนึ่ง จนทำให้ซีรี่ส์วายกลายเป็นกระแสและเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้มีซีรี่ส์วายมากมายเกิดขึ้นในประเทศไทย แถมยังส่งไปขายต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนอีกด้วย ด้วยผลงานระดับ Master pices ชิ้นนี้ ทำให้บิวกิ้นกวาดรางรัลจากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น รางวัลนาฏราช สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประจำปี 2021 

 
บิวกิ้นไม่ได้มีชื่อเสียงแค่เฉพาะในประเทศไทย แต่ยังโด่งดังไปไกลทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน เกาหลี และได้ไปแสดงความสามารถด้านการร้องเพลงบนเวลา Summer Sonic ประจำปี 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่นคู่กับคู่จิ้นซีรีย์วายอย่าง พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และได้ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งในเวลาถัดมา #BKPPSummerSonic  

 

นอกจากผลงานปังๆ ด้านงานแสดงแล้ว บิ้วกิ้นก็ได้ร้องเพลงประกอบซีรี่ส์ที่เขาเล่นอีกด้วย ทั้งร้อง เต้น แสดง ครบจบในคนเดียวจริงๆ ซึ่งผลงานเพลงของเขาก็ดังเป็นพลุแตกไปพร้อมๆ กับซีรี่ส์เลย ไม่ว่าจะเพลง… 

●    กีดกัน (Skyline) 
●    แปลไม่ออก (Untold Answer) 
●    โคตรพิเศษ (Freaking Special) 
●    ไม่ปล่อยมือ (Coming of Age) 
●    หลอกกันทั้งนั้น (Fake News) 
●    รู้งี้เเฟนกันตั้งนานแล้ว (Safe Zone) 

 

 

เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา BKPP Project ก็ถึงเวลาแยกทางไปกับคอรเสิร์ต “แปลรัก TheLastwilightDay” ปัจจุบันบิวกิ้นก็ได้ออก Single เดี่ยวภายใต้ค่ายเพลงของตนเอง “Billkin Entertainment” พร้อมเป็นศิลปินในค่ายของเขาเองอีกด้วย แต่ละเพลงที่ได้ปล่อยออกมาก็กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์โดยเฉพาะ TikTok ผู้คนต่างพากันอัดคลิปเต้นตามกันนอย่างทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นเพลง…

●     I ไม่ O (IXO)
●    เก็บไว้ตลอดไป (Once and Forever) 
●    ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ (I Like Us) 
●    Mr. Everything
●    ยิ้มทั้งน้ำตา (Always) 
●    กลับมาคบกันเถอะ (Please Please) 
●    การเดินทางที่สวยงาม (A Beatiful Ride) 

 

HYBS วง Indy-Pop สัญชาติไทย ที่นำเพลงไทยโกอินเตอร์
 
ศิลปินอินดี้สุดฮอตในช่วงเวลานี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากคู่หูดูโอ้จากวง “HYBS” พวกเขาได้ฉีกแนวการทำเพลงจากเพลงไทย มาทำเพลงภาษาอังกฤษ พร้อมมุ่งหน้าสู่เวทีนานาชาติอย่างเต็มตัว

 
เริ่มต้นจาก อลิน วี นักร้องนักแต่งเพลงมาดเซอร์ ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ ที่เป็นศิลปินอยู่แล้ว ได้ออกเพลงมาตลอดก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น หัวใจเจ้าเอย (Not Again) ก่อนที่จะมาจับมือกับ กานต์ กษิดิ์เดช เพื่อนรักที่คบกันมากว่า 8 ปี ร่วมกันทำเพลงแนวที่ตัวเองชื่นชอบ

 
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา HYBS ได้ออกอัลบั้มแรกชื่อว่า “Making Steak” ชื่อนี้เกิดมากจากเวลาที่พวกเขาทำเพลงจะมีกิจกรรมที่ทำควบคู่ไปด้วยนั่นก็คือ การทำสเต็ก 

 
เอ้ะ! หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ามันเกี่ยวกันอย่างไร? การทำสเต็กก็เปรียบเสมือนการผ่อนคลายรูปแบบหนึ่ง เป็นพลังงานบวกของทั้งคู่ที่ได้ทำเพลง พวกเขามีความสุขกับทุกๆ ขั้นตอน และพร้อมกระจายความสุขไปสู่ผู้ฟัง พร้อมบอกเล่าเรื่องราวผ่านจินตนาการบ้าง ชีวิตจริงบ้าง ผสมตัวตนของพวกเขาลงไปบ้าง ปะปนกันไป เชื่อมโยงกับความรู้สึกของคนฟัง ในเวลาทีพวกเขาเกินทางกลับบ้าน ตอนล้างจาน ขับรถ หรือเปิดในงานปาร์ตี้ 

 
ผลงานของพวกเขาก็ได้เริ่มโด่งดัง ผู้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น จน RM แห่งวง BTS แชร์เพลง “Ride” ผ่าน IG STORY จนทำให้เพลงของพวกเขา โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีโอกาสได้ออกอีเว้นท์นอกประเทศบ้างประปราย ก่อนที่ปี 2022 จนถึงปัจจุบัน การเดินทางของ HYBS ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในอนาคตอันใกล้ เราเชื่อว่า HYBS จะผลิตผลงานดีๆ มีงานคอลแลบกับต่างชาติ และส่งออกความสามารถของคนไทยไปถึงเวทีระดับโลกได้

 

ผลงานเพลง

●    Dancing with MY Phone 
●    Ride
●    Tip Toe
●    Killer
●    Go Higher
●    No one feat. HYBS (from brb.)


เพลง Tpop ในปัจจุบันจะผสมผสานไปด้านกลิ่นอายของ R&B หรือพ่วงการเเร็ปที่มีเนื้อหากินใจและตรงจุดผู้ฟัง ในเวลานี้ศิลปินไทยก็กำลังมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานที่น่าประทับให้กับทุกคนได้ฟัง และ (ชื่อ magazine) จะมาแนะนะศิลปินไทยเพิ่มเติมในปีถัดไปให้เพื่อนๆ ได้ไปติดตามกันในบทความหน้า รอติดตามได้เลย! 

คอลเลกชัน
สร้างเวลา:2024-01-16 20:14